วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555

กิจกรรมท้ายบทเรียน


บุญคุณไหนไม่เท่าบุญคุณแม่  ที่มีแต่ความรักไม่รู้จักเหนื่อย
ท่านห่วงใยใส่ใจเราทุกเมื่อ

         ให้นิสิตเขียนค้นหาคำคม หรือสุภาษิต ที่เกี่ยวข้องกับวันแม่ เช่น พระคุณแม่  ทำความดีอย่างไรให้กับแม่ พร้อมเขียนบทความลงในเว็บบล็อก และ
Print ส่ง พร้อมนำเสนอในสัปดาห์หน้า ความยาวในการนำเสนอไม่เกิน 2-3 นาที  ตามหลักการพูดเพื่อการนำเสนออย่างสร้างสรรค์

      พระคุณแม่ยิ่งใหญ่หาใดเทียบ       มิอาจเปรียบแม้ภูผาชลาสินธุ์
น้ำนมที่กลั่นให้ลูกได้ดื่มกิน                ลูกถวิลถึงคุณค่าว่าอนันต์
แม่เหน็ดเหนื่อยเริ่มแต่แม่ตั้งท้อง         เฝ้าประคองทั้งดวงใจไม่เหหัน
ทำทุกอย่างเพื่อลูกยาสารพัน                แม้คืนวันผันผ่านนานนับปี
ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ได้เรียนรู้             แม่ เฝ้าดูอยู่ข้างกายไม่หน่ายหนี
อยากเห็นลูกสุขสบายในชีวี                  เป็นคนดีที่ สังคมนั้นชมเชย
เหงื่อท่วมกายไม่เคยท้อแม้อ่อนล้า        หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ ดินแม่เมินเฉย
ลูกซาบซึ้งในบุญคุณมิลืมเลย                ขอชดเชยแทนทดจนหมดใจ.....


      ที่เลือกบทความนี้มาเพราะอ่านแล้วทราบซึ้งถึงพระคุณของแม่ว่ามีความยิ่งใหญ่ขนาดไหนกว่าแม่จะเลี้ยงเรามาจนเติบโตได้ขนาดนี้  แม่ต้องเหน็ดเหนื่อแค่ไหน แม่คอยโอบอุ้มตั้งท้องเรามาถึง9เดือน ทำทุกอย่างเพื่อจะให้ลูกสบาย อยู่ดีกินดี แม่จะลำบากขนาดไหนแม่ไม่เคยบ่น ทำงานทุกอย่างแทบจะอาบเหงื่อแทนน้ำแม่ก็ยอม ในฐานะที่เราเป็นลูกเราต้องทดแทนพระคุณของแม่ให้มากเท่ากับที่แม่ทำให้เราดังนั้นลูกที่ดี ควรประพฤติปฏิบัติตอบแทนคุณของท่านก็คือ ในเมื่อแม่เลี้ยงเรามาจนเติบใหญ่แล้วเราก็เลี้ยงท่านบ้างโดยให้ความสุขกายสบายใจแก่ท่าน แม้เป็นลูกยังเล็กอยู่ในวัยเป็นนักเรียน นักศึกษาอยู่ก็สามารถเลี้ยงดูน้ำใจของท่านได้ อย่าให้ท่านทุกข์ใจ เสียใจ กลุ้มใจ เพราะการกระทำของเรา คอยช่วยเหลืองานบ้านโดยการทำงานตามที่ท่านใช้ให้ทำ เป็นการแบ่งเบาภารกิจของท่าน ด้วยการรับงานซึ่งเป็นภาระอันหนักของท่านไปทำแทนเป็นต้น  และรักษาชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลรักษาสิ่งที่ดีงาม
ต่าง ๆ ของสกุลเอาไว้ไม่ให้เสื่อมในยุคในสมัยของตน

แบบฝึกหัดการแต่งกายให้ตอบคำถามลงใน weblog และprint ส่งในวันเรียนสัปดาห์ถัดไป


1 ประโยคที่ว่า  บุคลิกดีมีชัยไปกว่าครึ่ง   นิสิตเห็นด้วยหรือไม่  จงให้เหตุผล weblog

        ตอบ  เห็นด้วย เพราะบุคลิกเป็นสิ่งสำคัญในการจะทำงานต่างๆ จะต้องมีบุคลิกที่ดีเหมาะสมกับกาลเทศะดูแล้วน่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็นการพูด  ท่าทางการเดิน  ท่าการนั่ง   การแต่งกาย ต้องให้เหมาะสม  เช่นการที่เราจะไปสัมภาษณ์งาน ผู้สัมภาษณ์ก็จะดูบุคลิกก่อนว่าเหมาะกับงานที่จะทำหรือไม่  เราจึงต้องทำบุคลิกของเราเป็นที่ประทับใจของทุกคน
                                                         
2 ถ้านิสิตเป็นคนรูปร่างอ้วนควรแต่งกายอย่างไร พร้อมภาพประกอบ ลงในweblog


        ตอบ ถ้าเป็นคนที่มี รูปร่างอ้วนจะไม่สวมเสื้อที่มีเนื้อผ้าหนาๆ เพราะจะทำให้ดูใหญ่ขึ้นกว่าเดิม แต่จสวมเสื้อที่เนื้อผ้าบางๆ ชายเสื้อปล่อย เพื่อปกปิดหน้าท้อง และสีควรเป็นสีเดียวหรือโทนใกล้เคียงกัน ส่วนกางเกงควรใส่สีเข้มๆ ผ้าบางๆเช่นกัน และถ้ามีลายควรเป็นลายแนวดิ่งเพราะจะทำให้ขาดูเล็กลง และถ้าหากจะใส่กระโปรงก็ หากระโปรงคนอ้วนหรือชุดแซกแบบกระโปรงคนอ้วนที่เป็นทรงเอดีกว่า จะช่วยพรางสะโพกอันใหญ่ของเราได้และใส่เสื้อผ้าที่เป็นสีเข้มคอเสื้อควรเป็นคอวีจะช่วยให้ดูผอมเช่นกัน

4 ถ้านิสิตได้รับมอบหมายให้แต่งกายในวันเปิดตัวแถลงข่าง วีดิทัศน์หนังสั้น นิสิตจะแต่งกายอย่างไร 

      ตอบ  ในฐานะที่เป็นนิสิตก็จะแต่งชุดนิสิตเพราะเครื่องแบบนิสิตนักศึกษาเป็นเครื่องแบบที่อันทรงเกียรติและเป็นเอกลักษณ์ ความภาคภูมิใจในความเป็นปัญยาชน
ถูกต้อง  สะอาด เรียบร้อย     แต่ถ้าไม่ใช่นิสิตจะต้องแต่งกายใชุดยูนิฟอร์ม สะอาดเรีบยร้อย เหมาะกับกาลเทศะ

หนังสั้นส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม เรื่องพิษรัก



เรื่อง พิษรัก
http://www.youtube.com/watch?v=xltr_ZQGOBo 

การฝึกพูดในที่สาธารณะเพื่อการนำเสนออย่างสร้างสรรค์


การพูด
กระบวนการสื่อสารความคิดจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่ง โดย
       1   ภาษา         2 น้ำเสียง         3  อากัปกิริยา

แนวคิดพื้นฐานการพูดในที่สาธารณะ
1       คนทุกคนย่อมพูดได้
2       การพูดเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์
3       นักพูดที่ดีไม่จำเป็นต้องมีพรสวรรค์
4       ในโลกนี้ไม่มีใครเก่งจนไม่มีทางที่จะปรับปรุงให้ดีขึ้นได้อีก
5       การฝึกพูดจะเป็นผลดีต่อบุคลิกภาพทั้งภายในและภายนอก

ลักษณะของการพูด(General Types of Speech)
1.       แบบจูงใจ  หรือชักชวน (Persuasive Speech)
2.       แบบบอกเล่า หรือ บรรยาย (Informative or Instructive Speech)
3.       แบบบันเทิง (Recreative Speech)

การพูดใช้มาก 2 วิธี
1.       วิธีพูดแบบพูดสด
2.       วิธีพูดแบบผสมผสาน


บัญญัติ  10  ประการทะยานสู่ความสำเร็จในการพูด
1       รู้เรื่องดี ก็พูดได้
2       เตรียมตัวไว้ ก็พูดดี
3       พูดทั้งที่ ต้องเชื่อมั่น
4       แต่งกายนั้น ต้องเหมาะสม
5       ปรากฏโฉม กระตือรือร้น
6       ไม่ลุกลน ใช้ท่าทาง
7       สบตาบ้าง อย่างทั่วถึง
8       ภาษาซึ้ง  เข้าใจง่าย
9       น้ำเสียงไซร้ เป็นธรรมชาติ
10 อย่าให้ขาดรูปธรรม

ศิลปะการพูดในโอกาสต่าง ๆ ในการพูด
1.       กล่าวแสดงความยินดี/กล่าวตอบ
2.       กล่าวไว้อาลัย
3.       กล่าวอวยพร/กล่าวตอบ
4.       กล่าวสดุดี
5.       กล่าวมอบรางวัลหรือตำแหน่ง/กล่าวตอบ
6.       กล่าวต้อนรับ
7.       กล่าวแนะนำผู้พูด - องค์ปาฐก

ข้อควรคำนึงสำหรับการพูดในโอกาสต่างๆ
1.       จุดมุ่งหมายของการชุมนุม
                  -  การประชุมนั้นจัดขึ้นเพื่ออะไร
                 -  ผู้ฟังเป็นใคร มาประชุมในฐานะอะไร
                 -  สาระสำคัญของการชุมนุมอยู่ตรงไหน
2.       ลำดับรายการ
                -  มีรายการเรียงลำดับกันไว้อย่างไร
                -  ผู้พูดอยู่ในฐานะอะไร กล่าวในนามใคร
               -  เวลาที่กำหนดไว้นานเท่าใด หรือควรจะนานเท่าใด
               -  ก่อนหรือหลังการพูด มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดน่าสนใจพิเศาหรือไม่

เทคนิคในการพูดในโอกาสต่างๆ
1.       เปิดฉากให้น่าสนใจทันที
2.       จะให้ดี จงกล่าวสั้น ๆ
3.       พูดให้เกี่ยวข้องกับงานและคน
4.       อย่าสับสน จงพูดแต่ดี
5.       พูดให้มีหลักสุนทรพจน์

หลักการพัฒนาคำพูด 9 ประการ
1.       อ่านหนังสือพบประโยค หรือวลีมีคุณค่า จดไว้เป็นเสบียงกรัง
2.       จัดลำดับความคิดที่จะพูดให้คล้องจองเหมือนเรียงความ
3.       พูดจากหัวใจ  จริงใจ
4.       วิเคราะห์สถานการณ์การพูด คนฟัง สถานที่ เวลา เรื่องที่จะพูด
5.       ก่อนพูดเตรียมร่างกายให้ดี
6.       ดูเครื่องช่วยพูด เช่น ไมโครโพน
7.       พูดเหมือนการเขียน คำนำ เนื้อเรื่อง สรุป
8.       ระลึกว่าการพูดเป็น ศาสตร์และ ศิลป์พูดให้สอดคล้องสีหน้าและอารมณ์
9.       กำหนดสารบัญการพูดในใจ จากใจ ที่ขึ้นใจ
 



บุคลิกภาพในการนำเสนอ


บุคลิกภาพขณะนำเสนอ
บุคลิกภาพขณะนำเสนอ คือ สภาวะทุกอย่างของผู้นำเสนอ ทั้งสภาวะทางกายและจิตใจ ซึ่งมีอิทธิพลต่อการกระทำในระหว่างการนำเสนอ บุคลกิภาพที่ดีเป็นสิ่งสำคัญทำให้เรามั่นใจในขณะพูดและทำให้ผู้ฟังเกิดความ รู้สึกประทับใจและสนใจติดตามฟัง โดยไม่รู้สึกเบื่อหรือง่วงนอนก่อนที่เราจะพูดจบ

บุคลิกภาพที่ดีในการนำเสนอนั้นประกอบด้วย
1 การแต่งกาย
2 การใช้ภาษา
3 การใช้เสียง/จังหวะการพูด
4 การแสดงออกที่เหมาะสม

การแต่งกาย(Dressing)
การแต่งกายเป็นจุดแรกที่ดึงดูดสายตาผู้คน เครื่องแต่งกายเป็นตวับ่งบอกถงึบุคลกิ นิสัย ความเป็นมืออาชีพทำให้ผ้ฟังรู้สึกประทับใจก่อให้เกิดทัศนคติที่ดีอยากติดตาม ฟัง

เทคนิคการแต่งกาย
1 ผม - เล็บตัดสั้น ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
2 เครื่องประดับ - ควรมีแต่พอเหมาะ
3 เสื้อผ้า
- แต่งกายให้สะอาด สุภาพ เรียบร้อย สีเรียบ ไม่ฉูดฉาด
- แต่งกายให้เหมาะสมกับกาลเทศะและสถานที่
- ไม่ควรใส่ กระโปรงยาวหรือสั้นเกินไป (สำหรับสุภาพสตรี)

การใช้ภาษา
- ใช้ภาษาให้เหมาะกับกล่ม ผู้ฟัง
- ภาษาที่ใช้ต้องมีความชัดเจน
- ใช้ภาษาที่สุภาพ อักขระถูกต้องและเข้าใจง่าย
- กะทัดรัดได้ใจความ ไม่ใช้คำฟุ่มเฟือย
การใช้เสียง/จังหวะการพูด
-  เป็นธรรมชาติไม่ทุ่มหรือแหลมจนเกินไป
-  พูด ด้วยความเร็วที่เหมาะสม ไม่เร็วหรือช้าจนเกินไป
-  พูดให้ดังและชัดเจน ไม่ใช้ระดับเสียงเดียว
-  รู้จักการใช้เสียงสูงต่ำ ในการเน้นความหมายอย่างเหมาะสม

การแสดงออกที่เหมาะสม
1 การใช้สายตา (Eye Contact)
2 ภาษากาย (Body Language)
        - การนั่งนำเสนอ    -  การยื่นนำเสนอ  - มือ/แขน  - ใบหน้า/สีหน้า

การพูดในที่สาธารณะ


1. ในการพูด สร้างบุคลิกภาพที่ดี   ไม่ว่าจะเป็นวิทยากร   พิธีกร ต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมตามบทบาทหน้าที่ที่ได้รับ
    1.1 ด้านภาพลักษณ์
    1.2 ด้านการพูด
    1.3 ด้านปฏิภาณไหวพริบและด้านจิตใจ
2. การเตรียมตัวก่อนการพูด
    2.1 เตรียมเนื้อหา  
    2.2 ฝึกซ้อม  
    2.3 การเตรียมใจ  
3. การใช้ไมโครโฟน (ไมค์)
    3.1 การจัดเตรียมไมค์   
    3.2 วิธีการจัดไมค์ที่ถูกต้องในการพูด
4. การวางท่าทางขณะพูด
    4.1 กรณีที่ยืนตรง  
    4.2 การวางมือ
    4.3 กวาดสายตาไปทั่วห้อง
5. เทคนิคการสร้างความสนใจจากผู้ฟัง
    5.1 การสร้างความคุ้นเคยกบั ผู้ฟัง
    5.2 การตั้งคำถามกับผู้ฟัง
    5.3 ควรมีการยกตัวอย่าง
    5.4 พูด ด้วยน้ำเสียงสูง ต่ำ
    5.5 มีการสอดแทรกมุกตลก
    5.6 มีการนำเสนอแบบหักมุม
    5.7 การใช้กิจกรรมที่ให้ผู้ฟังมีส่วนร่วม
6. เทคนิคการแนะนำประวัติวิทยากร
    6.1 กล่าวถึงความสำคัญของเนื้อหา
    6.2 กล่าวถึงความสำคัญของวิทยากร 
    6.3 กล่าวถึงลักษณะเด่น
    6.4 กล่าวถึงประวัติการณ์ศึกษา
    6.5 กล่าวถึงตำแหน่งและชื่อสกุล ของวิทยากร
    6.6 เมื่อวิทยากรบรรยายจบ
7. ขั้นตอนการทำหน้าที่พิธีกรในช่วงพิธีการเปิดประชุม /  ฝึกอบรม
    7.1 ไหว้แนะนำตัว
    7.2 กล่าวถึงความเป็นมา
    7.3 เมื่อประธานมาถึง
    7.4 เมื่อประธานพร้อม
เทคนิคการ บรรยายให้มีประสิทธิภาพ
    - ตั้งวัตถุประสงค์ของการบรรยาย
    - กำหนดประเด็นของเนื้อหา
    - อธิบายวัตถุประสงค์ของแต่ละประเด็น
    - กำหนดเนื้อหา และตัวอย่างสำคัญของแต่ละประเด็น
    - การบรรยายแบบจูงใจผู้ฟัง 
    - การเชื่อมต่อประเด็น
    - การสรุปประเด็น
การเตรียมตัวต้องพิมพ์งานนำเสนอในรูปแบบเอกสารสำรองเพื่องานนำเสนอในรูปดิจิตอลไฟล์ผิดพลาด
  เตรียมให้พร้อม ซ้อมให้ดี ท่าทีให้สง่า หน้าตาสุขุม ทักที่ประชุมไม่วกวน เริ่มต้นให้โน้มน้าว เรื่องราวกระชับ ตาจับที่ผู้ฟัง เสียงดังพอดี อย่าให้มีเอออ้า ดูเวลาให้พอครบ สรุปจบให้จับใจ


บุคลิกภาพการแต่งกายกับการนำเสนออย่างสร้างสรรค์


บุคลิกภาพที่ดีต้อง 
    สุขภาพ   ความสะอาด  การยิ้ม
                                      
ความเป็นมาของการแต่งกาย
    1 เป็นวัฒนธรรมของแต่ละชาติ
    2 มีการปลูกฝังต้งแต่ในครอบครัว

ความสำคัญของการแต่งกาย
       1.สามารถสื่อสารได้
       2.ช่วยเสริมบุคลิกภาพ
หลักการแต่งกายที่ดูดี มีเสน่ห์
1         เน้นความเป็นตัวของตัวเอง
2         สะอาด  สุภาพ เรียบร้อย   สวยงาม
3         รู้จักดัดแปลงแก้ไข
4         สร้างเอกลักษณ์ให้กับตนเอง
ทรงผม 
1         การเลือกทรงผม
2         ความสะอาด 
3         ความเรียบร้อย 
4         เหมาะสม และดูดี 
เสื้อผ้า 
1         สุภาพ 
2         ประณีต  
3         สะอาด 
4         ประหยัด

การดูแลรักษาเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย
     1 เสื้อผ้าสำเร็จรูป เลือกที่ตัดเย็บประณีตดูดี ราคาย่อมเยาต้องดูแลรักษาให้ดี ควรซักรีดเอง
    2 ไม่ควรโยนกองเสื้อผ้าในตระกร้าหรือสวมไม้แขวนโลหะ
    3 การเก็บพับอาจทำให้เกิดรอยและเสียรูปทรงได้
   4 เมื่อพบรอยด่างดำหรือชำรุดต้องรีดแก้ไขซ่อมแซมทันที


วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2555

ปฏิบัติการออกแบบโปสเตอร์ด้วยโปรแกรม Adobe Photoshop


สร้างข้อความเหมือนควันบุหรี่โดย Adobe Photoshop

    1.พิมพ์ข้อความ
    2. Filter -> Distort -> Rippleตั้งค่า Amount ประมาณ85% Size=Largeแล้วคลิก OKได้เลย
    3. double click ที่ layer text แล้วเลือกที่ Satin ตั้งค่าต่างๆ
    4. รูปก็จะออกมา
    5. จากนั้น click ขวาที่ layer text แล้วเลือก Duplicate layer แล้วตั้งค่า layer นั้นเป็น Muliply และ Opacity เป็น 20% จากให้ให้คลิกที่ layer text อันแรกแล้วไปที่ Filter ---> Blur --->  Gaussian Blur ตั้งค่าเป็น 1.6
    6. เลือก Pencil tool แล้วลากเว้น
    7. Filter -> Distort ---> Ripple ตั้ง Amount = 85% Size = Large แล้วคลิก OK ได้เลยค่ะจากนั่นให้ไปที่ Filter ---> Blur ---> Gaussian Blur แล้วตั้งค่าเป็น 1.4
    8. Click ขวาที่ layer ที่เราคัดลอกมาแล้วเลือก Blending Options แล้วเลือกที่ Color Overlayแล้วทำการตั้งค่าตามด้านล่าง
9. เสร็จเรียบร้อย
  
เทคนิคการRetouchด้วย Photoshop CS3 เพื่อใช้ในงานโปสเตอร์
     วิธีการใช้โปรแกรรม Photoshop  CS3
โปรแกรมตกแต่งภาพ
ด้วยการRetouchเพื่อการตกแต่งภาพด้วยการตัดภาพให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วยภาพBackgroundกับภาพนางแบบซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ในการออกแบบงานกราฟิกประเภทโปสเตอร์หรือโบว์ชัวร์ได้


ขั้นตอนที่ 1 เปิดภาพทิวทัศน์ที่ต้องการด้วยโปรแกรม Photoshop CS3
ขั้นตอนที่ 2 เปิดภาพนางแบบที่ต้องการ(ภาพที่ใช้สำหรับการศึกษา)
ขั้นตอนที่3 ทำการSELECTส่วนของภาพนางแบบที่ต้องกา

ขั้นตอนที่4 ทำการmore ภาพนางแบบมาวางบนภาพทิวทัศน์

ขั้นตอนที่5 เลือก add vector mask ด้านล่างขวาบน menu layer

ขั้นตอนที่6 จะปรากฎสัญลักษณ์บนlayer ของนางแบบแล้วใช้ eraser tool หรือยางลบ ลบส่วน

ต่างๆของภาพนางแบบที่ไม่ต้องการเพื่อให้มองทะลุเห็นภาพ background ที่เป็นทิวทัศน์ซึ่ง

สามารถเพิ่มลดขนาดของ brush ได้ด้วยการกด    "บ"และ"ล"




วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555

โปสเตอร์ หนังสั้น

โปสเตอร์หนังสั้น ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม
เรื่อง พิษรัก
ทีม   ไม้ขีดไฟ


วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2555

การออกแบบโปสเตอร์

โปสเตอร์ (Poster) หมายถึง สิ่งพิมพ์ที่ที่เป็นแผ่นเดียวมีขนาดใหญ่หรือเล็กแล้วแต่ผู้จัดทำ ใช้ติดตามสถานที่ต่าง ๆ ในแนวตั้ง เช่น ผนัง ตู้กระจก เสาไฟฟ้า ฯลฯ มีเนื้อหาสาระเพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการหรืองานอื่นๆที่ต้องการเรียกร้องความสนใจ ส่วนใหญ่แล้วมักนำเสนอเพียงแนวความคิดเดียวเป็นหลักใหญ่
ประโยชน์ของโปสเตอร์
1. โดยส่วนมากจะเป็นเครื่องมือในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาสินค้า/บริการ งานต่างๆ งานดนตรี ภาพยนตร์
2. เพื่อใช้ในการศึกษานำเสนอสาระใดสารหนึ่ง
3. เพื่อเป็นสื่อการสอนอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ
4. นำเสนอผลงานทางวิชาการ
ลักษณะของภาพโปสเตอร์ที่ดี
1. รูปแบบต้องสอดคล้องกับเนื้อหาและกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้
2. มีลักษณะ เด่นชัด มองเห็นสะดุดตา
3. ข้อความนั้นต้องสั้น กระชับได้ใจความ
4. รูปภาพเร้าความสนใจ ชวนติดตาม
5. มีการสื่อความหมายได้ตามวัตถุประสงค์
6. แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์
7. มีขนาดใหญ่พอที่จะมองเห็นได้ในระยะไกล
8. ในเรื่องการนำเสนอต้องมีข้อมูลเพียงเรื่องเดียวและที่สำคัญตรงประเด็น
ส่วนประกอบของโปสเตอร์
1. ข้อความพาดหัว
2. รายละเอียด
3. รูปภาพประกอบ
4. คำขวัญ/สโลแกนเพื่อจูงใจ/ข้อความลงท้าย
5. โลโก้ของหน่วยงานเจ้าของโปสเตอร์
ขั้นตอนการออกแบบโปสเตอร์
1. ศึกษารายละเอียดและวิเคราะห์ข้อมูลที่จ าเป็นที่ต้องการสื่อสาร
2. นำข้อมูลที่ต้องการสื่อสารมาออกแบบร่าง
3. เลือกรูปแบบและการวางผัง (Layout) ที่เหมาะสมกับงาน
4. ทำการวางแบบเลย์เอ้าท์นำส่วนประกอบต่างๆมาลองวางลงในหน้ากระดาษ เพื่อดูว่ามีมากพอหรือไม่ ต้องการเพิ่มเติมส่วนใด หรือต้องตัดอะไรออก ดูความเข้ากันของส่วนประกอบทั้งหมดโดยใช้องค์ประกอบศิลปะช่วยในการจัด
5. กำหนดลักษณะของส่วนประกอบต่างๆของงานที่เหมาะสม เช่น แบบ ขนาดของตัวอักษรที่ใช้ในส่วนต่าง ๆ ของเนื้อหา
6.การทำต้นฉบับเหมือนพิมพ์ อาร์ตเวิร์ค (artwork) น าแบบร่างที่ลงตัวถูกต้องแล้ว มาทำให้เป็นขนาดเท่าของจริง ทั้งภาพและตัวอักษร ช่องไฟ และงานกราฟิคทุกอย่าง ซึ่งปัจจุบันจะใช้โปรแกรมจัดทำอาร์ตเวิร์ค เช่น Adobe Indesign, Illustrator เป็นต้น
7. ทำการตรวจทาน ดูความถูกต้องของภาษา ความเหมาะสมของรูปภาพ และการจัดวาง
8. แก้ไขรายละเอียดและปรับแต่งขั้นสุดท้าย นำส่งโรงพิมพ์เพื่อทำการจัดพิมพ์ต่อไป
หลักการออกแบบโปสเตอร์
1. ตัวอักษรต้องตัดกับพื้นหลัง
2. ไม่ควรใส่ข้อความแน่นหรือมีจำนวนมากเกินไป
3. ควรคำนึงถึงหลักทฤษฎีสีและศิลปะในการออกแบบ
4. ควรเว้นระยะขอบประมาณ 0.5 ซ.ม.
5. ภาพให้เหมาะสมกับเนื้อหา
ข้อมูลในการผลิตงานพิมพ์โปสเตอร์
1. รูปแบบและรายละเอียดของงานพิมพ์โปสเตอร์งานพิมพ์โปสเตอร์จะมีรูปร่างเป็นกระดาษแผ่นเดียว กระดาษที่ใช้ไม่หนามาก การพิมพ์บนโปสเตอร์จะมีที่พิมพ์เพียงด้านเดียว
2. ขนาดของงานพิมพ์โปสเตอร์
ขนาด 15”x 21”, 10.25”x 1517”x 23.5”(A2), 11.75”x 17”(A3), 8.25”x 11.75”(A4)สำหรับขนาดอื่นที่มิได้กล่าวไว้ อาจทำให้มีการเสียเศษแผ่น
3. กระดาษที่ใช้สำหรับงานพิมพ์โปสเตอร์ก    ระดาษปอนด์ 100 แกรมขึ้นไป    กระดาษอาร์ตมัน/ด้าน 120 แกรมขึ้นไป
4. การพิมพ์และตกแต่งผิวบนของงานพิมพ์โปสเตอร์
มีการพิมพ์โปสเตอร์แบบ 1 สี 2 สี 3 สี 4 สี หรือมากกว่า จะใช้แม่สี 4 สี (CMYK) หรือสีพิเศษก็ได้มักพิมพ์ด้วยระบบออฟเซ็ท ระบบอิ้งค์เจ็ทหรือระบบดิจิตอล พิมพ์หน้าเดียวสามารถพิมพ์โปสเตอร์เคลือบUV เคลือบพลาสติกเงา หรือเคลือบพลาสติกด้าน เคลือบ Spot UV ปั๊มนูน (Embossing) ปั๊มทองหรือฟิล์ม/ฟอยล์สีต่าง ๆ (Hot Stam)
5. เพิ่มเติมสำหรับงานพิมพ์โปสเตอร์สามารถทำการปั๊มไดคัท (Die-cut) เป็นรูปต่างๆขึ้นอยู่กับการออกแบบ
6. การปรู๊ฟงานพิมพ์โปสเตอร์จากโรงพิมพ์ฯปรู๊ฟจาก Computer Printer หรือผ่าน Fax สำหรับงานสีเดียว หรือ สองสีควรปรู๊ฟแบบ Digital Proof หรือ ปรู๊ฟจากแท่นปรู๊ฟหากเน้นเรื่องสีสันซึ่งจะถูกนำมาใช้เปรียบเทียบกับงานพิมพ์จริง
7. ระยะเวลาการผลิตงานพิมพ์โปสเตอร์สำหรับโรงพิมพ์ฯส่งมอบภายใน 3 5 วันหลังจากลูกค้าอนุมัติปรู๊ฟแล้ว